End Of Eternal - นิยาย End Of Eternal : Dek-D.com - Writer
×

    End Of Eternal

    ในโลกที่เทคโนโลยีและเวทมนตร์อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน โซระ อากาโนะ เด็กหนุ่มที่พึ่งจะขึ้นมหาวิทยาลัยพร้อมกับน้องสาวต้องมาพัวพันกับพลังงานลึกลับจนทำให้ชีวิตของโซระไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป

    ผู้เข้าชมรวม

    51

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    51

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 พ.ย. 67 / 09:20 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

    หน้าปกของนิยายเว็บเรื่อง "End Of Eternal" ถูกสร้างขึ้นโดย Dall-E ของบริษัท OpenAI เป็นการชั่วคราว อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

    _


    หลายร้อยปีก่อนยุคปัจจุบัน


    ณ ทุ่งโล่งกว้างที่ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสมรภูมิรบ เหล่าทหารนับแสนนายประกอบด้วย อัศวินถือดาบใหญ่ หอกหรือแม้แต่นักธนูอยู่ที่แนวหลังของกองทัพ


    เหล่านักรบแนวหน้าจากทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด เสียงดาบกระทบกันและเสียงตะโกนดังมาจากทั่วสารทิศ ลูกธนูนับหมื่นดอกถูกยิงขึ้นฟาและตกลงมาราวกับห่าฝน ลูกธนูบางส่วนปักลงพื้น บางส่วนก็กระเด็นออกไปเพราะเจาะชุดเกราะเหล็กไม่เข้าแต่หลายดอกก็ปักเข้าไปที่จุดบอดของชุดเกราะเช่นข้อต่อ ทำให้มีคนบาดเจ็บหรือล้มตายมากมาย


    สงครามครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากความขัดแย้งกันระหว่างสองจากทั้งหมดของอาณาจักรขั้วอำนาจ การต่อสู้กันอย่างซึ่งหน้าโดยไร้ซึ่งกลอุบาย ก็เป็นหนึ่งในการลงสัญญาประกาศสงครามเมื่อไม่กี่เดือนก่อนโดยมีใจความว่า 'ฝ่ายใดที่ใช้กลอุบายและกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบหรือเสียเปรียบแก่ฝ่ายตนหรือฝ่ายศัตรูถือเป็นการตัดขาดความสัมพันธ์อันดีจากสหพันธ์' การตัดความสัมพันธ์อันดีจากสหพันธ์หรืออาณาจักรมหาอำนาจถือเป็นการประกาศสงครามกับทุกอาณาจักรในสหพันธ์


    กลับมาที่สนามรบ

    การต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบวันแต่ก็ยังคงไม่มีทีท่าของผู้แพ้หรือชนะ


    ทันใดนั้นก้อนเมฆบนท้องฟ้าในยามเย็นก็ได้แหวกออกเพราะแรงลมมหาศาล แสงสีทองสว่างได้สาดส่องไปทั่วสนามรบย้อมทุกอย่างเป็นสีทองด้วยความสว่างไสว เหล่านักรบหยุดต่อสู้กันเพื่อมองดูแสงสว่างบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าตกตะลงภายใต้หมวกเกราะ


    บางสิ่งที่ไร้รูปร่างซึ่งเป็นศูนย์กลางของแสงสีทองมีขนาดใหญ่มหึมาจนสามารถเทียบได้กับเมืองเล็กๆตกลงมากลางสนามรบด้วยความเร็วมหาศาล


    แรงกระแทกได้กวาดล้างทหารทุกคนในสนามรบและฆ่าล้างทุกสิ่งมีชีวิตในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนมหาศาลทำให้ทั่วทั้งโลกต้องพบเจอกับแผ่นดินไหว


    เมื่อแสงสีทองหายไปเหลือไว้เพียงดินแดนรกร้างว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งชีวิตใดๆ


    แต่เรื่องราวยังไม่จบแสงสีทองไม่ได้หายไปไหนแต่มันกำลังทะลุผ่านพื้นดินลงไปลึกมากขึ้นเรื่อยๆด้วยความเร็วมหาศาลไหลลงสู่ใจกลางของโลก


    แสงสีทองค่อยๆถูกแกนโลกที่ร้อนระอุดูดซับเข้าไป แกนโลกส่องแสงสีทองออกมาก่อนจะแผ่พลังงานขึ้นสู่พื้นดินและปกคลุมชั้นบรรยากาศจนท้องฟ้าทั่วทั้งโลกกลายเป็นสีทอง


    พลังงานยังคงถูกปลดปล่อยออกมาจากใจกลางโลกอย่างต่อเนื่อง พืชพันธุ์ต่างๆเริ่มเหี่ยวเฉาและสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกล้มตายอย่างรวดเร็วเนื่องจากทนพลังงานมหาศาลนั้นไม่ไหว 


    ภายในตัวเมือง

    สิ่งก่อสร้างพังทลายเหล่าผู้คนมากมายส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลายคนเลือดไหลออกมาจากปาก ดวงตา และแทบจะทุกรูขุมขนบนร่างกายเพราะผลจากการดูดซับพลังงานสีทองจนรู้สึกเหมือนกำลังถูกเผาด้วยไฟจากนรกและกำลังจะระเบิด 


    ความทรมานแสนสาหัสของทุกสิ่งมีชีวิตยังคงดำเนินต่อไปนานหลายชั่วโมงจนในที่สุดมันก็จบลง


    พืชและสัตว์มากมายสูญพันธุ์ ระบบนิเวศถูกทำลาย ซากศพของมนุษย์นอนเกลื่อนกลาดระจัดกระจายไปทั่วเมือง 


    ในขณะที่ท้องฟ้ายังคงเปล่งประกายด้วยแสงสีทองจนไม่รู้วันไม่รู้คืนราวกับแสงจากสวรรค์ที่กำลังมอบความหวังให้ผู้หมดหนทาง แต่กลับกันภายในหัวใจของผู้ที่รอดชีวิตกลับถูกทับถมด้วยความสิ้นหวังจากการสูญเสียและทุกทรมาน


    แต่เช่นเคยเรื่องราวยังไม่จบ ทุกสิ่งที่เหลือรอดได้ดูดซับพลังงานสีทองนั้นไว้ และได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสิ่งใหม่ พืชที่ยังไม่ตายได้ใช้พลังงานใหม่ในการสังเคราะห์อาหาร 


    สิ่งมีชีวิตอื่นเมื่อได้ปรับตัวเข้ากับพลังใหม่จนตัวใหญ่ขึ้นแข็งแกร่งมากขึ้น 


    มนุษย์เองก็ได้พัฒนาจนสามารถควบคุมพลังใหม่ทำให้ใช้พลังเหนือธรรมชาติได้และได้ตั้งชื่อให้กับพลังงานสีทองปริศนานี้ว่าเวทมนตร์


    ในตอนนี้หลายสิ่งได้เกิดขึ้นมามากมายทั้งพืชและสัตว์สายพันธุ์ใหม่ทำให้เกิดพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน 


    พืช สัตว์และมนุษย์ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ระบบนิเวศจึงได้วิวัฒนาการ


    และใช่ 


    ดาวเคราะห์โลกกำลังวิวัฒนการ

    ______

    ข้อมูล

    -ดาวเคราะห์โลก (ค.ศ.2026)

    อายุ: 4,500-4,600ล้านปี

    สถานะ: วิวัฒนาการ (สมบูรณ์)

    ระดับพลังงาน: 100%

    ระดับการแผ่พลังงาน: 25%

    ระดับเทคโนโลยี: 1 (ควบคุมหรือนำพลังงานจากดาวเคราะห์มาใช้ได้ทั้งหมด)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น